ตราวงแหวนโอลิมปิก
| |
ชื่อย่อ | Olympiad |
---|---|
คำขวัญ | Citius, Altius, Fortius เร็วขึ้น, สูงขึ้น, แกร่งขึ้น |
ก่อตั้ง | สมัยโบราณ: 776 ปีก่อน ค.ศ. สมัยใหม่: พ.ศ. 2439 กรุงเอเธนส์, กรีซ |
จัดขึ้นทุก | 4 ปี |
ครั้งล่าสุด | ครั้งที่ 31 ที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล |
วัตถุประสงค์ | กีฬาสำหรับนานาชาติ |
สำนักงานใหญ่ | คณะกรรมการโอลิมปิกสากล โลซาน, สวิตเซอร์แลนด์ |
ประธาน | โทมัส บัค |
คณะกรรมการโอลิมปิกสากล |
การแข่งขันนั้นเริ่มต้นครั้งแรกด้วยกีฬาเพียง 42 ประเภท และนักกีฬาชายเพียง 250 คน จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10,000 คน ของนักกีฬาชายและหญิงจาก 202 ประเทศทั่วโลก คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง คาดการณ์ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน เข้าชิงชัยใน 302 รายการ ในขณะที่กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประมาณการไว้ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน แต่ก็เกิดการคลาดเคลื่อนขึ้นเพราะมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 11,099 คน ใน 301 รายการแข่งขัน
นักกีฬาถูกส่งเข้าแข่งขันโดยคณะกรรมการโอลิมปิกของประเทศต่าง ๆ (NOC-National Olympic Committee) เพื่อแสดงจำนวนพลเมืองในบังคับของประเทศตน เพลงชาติและธงชาติประกอบพิธีมอบเหรียญ และตารางแสดงจำนวนเหรียญที่ชนะ โดยถูกใช้อย่างกว้างขวางในบางประเทศ โดยปกติแล้วเฉพาะประเทศที่ได้รับการรับรองเท่านั้นที่จะมีผู้แทนได้ แต่มีแค่เพียงประเทศมหาอำนาจบางประเทศเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วม
โดยมีเพียง 4 ประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนทุกครั้ง ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร กรีซ และสวิตเซอร์แลนด์ และมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ชนะและได้รับเหรียญทองอย่างน้อย 1 เหรียญจากการแข่งขันทุกครั้ง คือ สหราชอาณาจักร โดยได้รับตั้งแต่ 1 เหรียญทอง ในปี 1904 1952 และ 1996 จนถึงได้รับ 56 เหรียญทอง ในปี 1908
วิวัฒนาการของโอลิมปิกฤดูร้อนสมัยใหม่ ปี 1896-2020
1896 เอเธนส์
กีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1896 หลังจากที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้หยุดไปเป็นเวลานาน โดยจัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซที่สนามกีฬา Olympic Stadium ซึ่งได้ถูกทำลายไปโดยทหารฝรั่งเศส
การแข่งขันครั้งนี้นับว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของกรีก ไม่ใช่แค่เพียงได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้เท่านั้น แต่เพราะนักกีฬาชาติกรีกได้นำชัยชนะมาให้กรีซ เป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันวิ่งมาราธอนซึ่งถือเป็นกีฬาสัญลักษณ์ของโอลิมปิก ในครั้งนี้กรีกเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันทั้งหมดด้วยการกวาดเหรียญรางวัลชนะเลิศถึง 47 เหรียญ
ชัยชนะของนักกีฬากรีกในครั้งนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Loues ผู้ชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนและได้กลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศของตน
1900 ปารีส
จริง ๆ แล้วได้มีความพยายามที่จะให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นในกรีกเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ Coubertin ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ขึ้นได้ยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะให้มีการแข่งขันเวียนไปตามประเทศต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมการแข่งขันกีฬา
การแข่งขันในครั้งนี้ชัยชนะในการแข่งขันในกีฬาประเภทต่าง ๆ กระจายกันไปอยู่ในหมู่นักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ
1904 เซนต์หลุยส์
มีนักกีฬาจากประเทศในยุโรปมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้น้อยมากเนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทาง นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาจึงได้ครอบครองเหรียญชัยชนะมากที่สุด กีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้จัดว่าเป็นครั้งที่น่าอดสูที่สุด เริ่มจากการแย่งกันระหว่าง เซนต์หลุยส์ และ ชิคาโก ว่ารัฐใดจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน นอกจากนั้นนักกีฬาผู้ที่ได้เข้าเส้นชัยในการแข่งขันวิ่งมาราธอนยังใช้วิธีการสกปรกในการได้มาซึ่งชัยชนะครั้งนั้นด้วยการแอบโดยสารรถบรรทุกระหว่างการแข่งขันเพื่อย่นระยะทาง
1908 ลอนดอน
การแข่งขันกีฬาครั้งที่ 4 มีขึ้นที่กรุงลอนดอน โดยจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ผู้นำในการแข่งขันครั้งนี้ได้แก่ประเทศอังกฤษ โดยสามารถครอบครองเหรียญชัยได้ถึง 145 เหรียญโดยมีสหรัฐอเมริกาตามมาเป็นอันดับที่ 2
ในการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้มีนักกีฬาจำนวนมากจากหลายประเทศมาเข้าร่วมทำการแข่งขันโดยมาจาก แอฟริกาใต้, แคนนาดา, และ ออสเตเรีย ซึ่งจัดว่าเป็นการแข่งขันนานาชาติครั้งแรกจริง ๆ
การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 2,036 คน เป็นชายประมาณ 2,000 คน หญิง 36 คน และการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ชนะจากการแข่งขันในแต่ละประเภทได้รับเหรียญทอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ชนะเลิศจะได้รับเหรียญเงิน
1912 สตอกโฮล์ม
ในครั้งนี้กษัตริย์ Gustav ที่ 5 แห่งสวีเดนได้ตรัสยกย่อง Jim Thorpe นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาว่าเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคำยกย่องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เกินความจริงเลย โดยเขาชนะเลิศการแข่งขันกีฬาลู่-ลาน 5 ประเภท (Pentathalon) รวมทั้งชนะเลิศการแข่งขันกีฬาลู่-ลาน 10 ประเภท (Decathalon) ด้วย ซึ่งได้ทำให้ Thorpe ได้กลายเป็นดาวของกีฬาโอลิมปิกจากสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง
แต่ต่อมา Thorpe ได้ถูกยึดเหรียญชัยชนะคืนมาหลังจากที่ IOC พบว่าเขาอยู่ในทีมนักเบสบอลอาชีพในปี 1909 แต่หลังจากนั้นต่อมาถึง 73 ปี Thorpe ก็ได้รับเหรียญรางวัลกลับคืนมาด้วยความสนับสนุนของผู้ที่นิยมและเห็นอกเห็นใจ Thorpe แต่ก็หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
โอลิมปิก 1912 ถูกจัดว่าเป็นครั้งที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง สวีเดนซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพได้มีการเตรียมพร้อมให้การแข่งขันครั้งนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด มีนักกีฬา 26 ประเทศหรือประมาณกว่า 3,000 คนมาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้
1916
ไม่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
1920 อันทเวิร์ป
ได้มีการกำหนดสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกขึ้นใหม่เป็นรูปห่วง 5 ห่วงคล้องกันอยู่ (Olympic Rings) กีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ไม่สามารถที่กล่าวได้ว่าเป็นกีฬานานาชาติอย่างแท้จริงเนื่องจากได้กีดกันไม่ให้ประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเข้าร่วมการแข่งขัน ดาวรุ่งกีฬาครั้งนี้คือ Paavo Nurmi ซึ่งครองชัยชนะการวิ่งระยะไกลทั้งหมดมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่อันทเวิร์ปเป็นชาย 2,453 คน หญิง 64 คน
1924 ปารีส
การแข่งขันที่ปารีสครั้งนี้ Harold Abrahans นักกีฬาจากประเทศอังกฤษชนะเลิศการวิ่ง 100 เมตร แต่ในภายหลังได้พบว่า Abrahans ใช้ยาที่ชื่อว่า Easton Syrup ซึ่งมีส่วนผสมของสตริกไนน์ และเขาไม่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้หากมีการตรวจพบว่า Abrahans ใช้ยา
นักกีฬาว่ายน้ำจากสหรัฐอเมริกา Johnny Weismuller ซึ่งในภายหลังได้กลายเป็นดาราชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำถึง 3 เหรียญทอง และ 1 เหรียญทองแดง
1928 อัมสเตอร์ดัม
เป็นครั้งแรกที่ IOC ได้ทำการย่นระยะเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกลงเหลือเพียง 16 วัน ก่อนหน้านั้นการแข่งขันจะกินเวลาเป็นเดือน การแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่เป็นเจ้าภาพมีความหวังที่จะได้ชัยชนะในกีฬาฟุตบอล แต่ก็ต้องพลาดหวังเมื่ออุรุกวัยและอาร์เจนตินาได้เข้าร่วมชิงชนะเลิศ Paavo Nurmi ได้รับการยกย่องเป็นเจ้าแห่งการแข่งขันวิ่งระยะไกลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสหรัฐอเมริกาได้ครองเหรียญทองเป็นจำนวนมากมาจากการแข่งขันว่ายน้ำ โอลิมปิกครั้งนี้มีประเทศที่เริ่มฉายแววทางกีฬาเพิ่มขึ้นมาคือ ญี่ปุ่น นอกจากนี้ในปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีการจัดการแข่งขันประเภทลู่ลาน หญิงเป็นครั้งแรก
1932 ลอสแอนเจลิ
ลอสแอนเจลิสมีเวลาในการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ถึง 9 ปี ได้ทำการก่อสร้างโคลิเซียมขนาด 100,000 ที่นั่ง ซึ่งในปี 1984 ได้ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่จัดการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง ปีนี้เป็นปีที่ริเริ่มสิ่ง ๆ ใหม่หลายอย่าง อาทิ มีการจัดค่าเดินทางแก่นักกีฬาต่างประเทศที่มาร่วมการแข่งขัน การสร้างหมู่บ้านโอลิมปิกเพื่อให้นักกีฬาจากหลายประเทศมาอยู่ร่วมกัน
1936 เบอร์ลิน
นักกีฬาผิวดำจากประเทศสหรัฐอเมริกา Jesse Owens ได้ลบคำสบประมาทของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่กล่าวว่าชาวเยอรมันเหนือกว่าชาติอื่นในทุกด้าน ด้วยการคว้าเหรียญทองได้ถึง 4 เหรียญ
การแข่งขันในครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจาก 49 ประเทศ เป็นชาย 3,738 คน หญิง 328 คน
1940 และ 1944
ไม่มีการแข่งขันกีฬาเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
1948 ลอนดอน
เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทางวิทยุทั่วโลกในครั้งนี้ได้มีนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกา Bob mathias ได้กลายเป็นขวัญใจโดยสามารถครองเหรียญทองจากการแข่งขัน Decathalon ซึ่งจัดว่าเป็นกีฬาที่ยากต้องอาศัยความแข็งแรงและความอดทนอย่างสูง นอกจากนั้นการแข่งขันในครั้งนี้ เยอรมันและญี่ปุ่นผู้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกลอนดอน มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจาก 59 ประเทศ เป็นชาย 3,741 คน และหญิง 385 คน
1952 เฮลซิงกิ
Emil Zatopek จากเชโกสโลวะเกียได้กลายเป็นดาวเด่นในหมู่นักกีฬาในปี 1952 เมื่อเขาได้ชัยชนะในการแข่งขันวิ่งระยะไกล 10,000 เมตร และ 50,000 เมตร รวมทั้งการแข่งขันวิ่งมาราธอน และภรรยาของเขาก็ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันพุ่งแหลนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สหภาพโซเวียตได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรวมทั้งประเทศไทยก็เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกเช่นกัน
1956 เมลเบิร์น
การแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่พิชิตเหรียญทองกีฬาว่ายน้ำได้มากที่สุดคือ ออสเตรเลีย โดยมี Dawn Fraser นักว่ายน้ำหญิงเป็นผู้ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดเพราะนอกจากพิชิตเหรียญทองได้แล้วยังสร้างสถิติเวลาใหม่และไม่มีผู้ใดทำลายได้ถึง 15 ปี ในการแข่งขันครั้งนี้เหตุการณ์ทางการเมืองประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันได้เกิดความกระทบกระทั่งกันระหว่างนักกีฬาจากโซเวียตกับฮังการีในระหว่างการแข่งขันโปโล
1960 โรม
Cassius Clay นักมวยจากสหรัฐอเมริกาผู้ชนะเลิศการแข่งขันชกมวยในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 17 การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ เช่น มีการให้ความสนับสนุนในเรื่องการเดินทางทางอากาศแก่นักกีฬา นักกีฬามีการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้มาอย่างเต็มที่นักกีฬาทุกคนให้ความสำคัญในการได้รับชัยชนะในการแข่งขันอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้สถิติที่นักกีฬาโอลิมปิกปีก่อน ๆ ทำไว้จึงถูกลบล้างไปเกือบหมด
1964 โตเกียว
ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การแข่งขันครั้งนี้มีดาวรุ่งเกิดขึ้นหลายราย คนแรกคือ Bob Hayes ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นนักดังในทีม Dallas Cowboys คนต่อมาคือ Joe Frazier ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันชกมวยในกีฬาโอลิมปิก และต่อมาได้เป็นแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวตของโลก Abebe Bikila จากเอธิโอเปียก็ชนะการวิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรก
1968 เม็กซิโกซิตี้
การแข่งขันโอลิมปิกมีขึ้นที่ละตินอเมริกาเป็นครั้งแรก โอลิมปิกคราวนี้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำการแข่งขันทั้งหมดมีสถิติใหม่ ๆ เกิดขึ้นเช่นการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร โดย Jim Hines วิ่ง 400 เมตร โดย Lee Evans จากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
1972 มิวนิก
โซเวียตมองเห็นช่องทางในการเผยแพร่ลัทธิทางการเมืองของตนโดยอาศัยการแข่งขันโอลิมปิก โดยพยายามที่เป็นผู้นำในการแข่งขัน และโน้มน้าวชาติอื่น ๆ ให้เห็นว่าโซเวียตเป็นประเทศมหาอำนาจ ภายหลังพบว่านักกีฬาโซเวียตเป็นนักกีฬาอาชีพที่รัฐบาลว่าจ้างให้เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกครั้งนั้น และยังพบอีกว่านักกีฬาจากสหภาพโซเวียตใช้ยาเสริมกำลัง ในปีนั้นสหภาพโซเวียตสามารถพิชิตเหรียญทองได้ถึง 99 เหรียญ นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ก่อการร้ายขึ้นในกรุงมิวนิก มีความพยายามลักพาตัวนักกีฬาอิสราเอลในการแข่งขันบาสเกตบอลนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาได้พ่ายแพ้แก่นักกีฬาจากสหภาพโซเวียตเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกจากการแข่งขัน 63 ครั้ง ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธไม่ขึ้นรับเหรียญเงิน ในปีนี้นั้นมีนักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขันถึง 122 ประเทศ
1976 มอลทรีออล
สหรัฐอเมริกาโชว์ความสามารถในกีฬาชกมวยด้วยการมีทีมนักกีฬาที่ดีที่สุดได้แก่ Ray Leonard Leon Spinks โดยสามารถพิชิตเหรียญทองได้และต่อมาได้กลายเป็นแชมเปี้ยนมวยอาชีพ ส่วนในการแข่งขันยิมนาสติก Nadai Comaneci ได้กลายเป็นดาวดวงใหม่ที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความนิยมในกีฬายิมนาสติกขึ้น
1980 มอสโก
สหรัฐอเมริกาไม่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เนื่องจากกรณีที่สหภาพโซเวียตส่งกองกำลังบุกรุกอัฟกานิสถาน ญี่ปุ่นและเยอรมันตะวันตกก็เป็นอีก 2 ประเทศจากทั้งหมด 63 ประเทศที่บอยคอตสหภาพโซเวียตและไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ในปีนั้นจึงมีเพียง 81 ประเทศจากทั่งโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งในปีนั้นสหภาพโซเวียตครองเหรียญทองมากที่สุด
1984 ลอสแอนเจลิส
สหภาพโซเวียตบอยคอตการแข่งขันในปีนี้ ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ส่วนหนึ่งเพื่อแก้คืนที่สหรัฐอเมริกาไม่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งก่อนที่ มอสโก ในปี 1980 ส่วนหนึ่งเป็นห่วงความปลอดภัยของนักกีฬาจากประเทศตน แต่บุคคลบางกลุ่มเชื่อว่าสหภาพโซเวียตเกรงว่านักกีฬาของตนจะไม่ผ่าน Drug Test ซึ่งจะทำให้ทั่วโลกรู้ถึงที่มาแห่งชัยชนะทางการกีฬาของตน นักกีฬาที่มีชื่อเสียงจากการแข่งขันในปีนี้ได้แก่ Carl Lewis จากสหรัฐอเมริกาโดยสามารถครอง 4 เหรียญทองจากการแข่งขัน Mary lou Retton ครองเหรียญทองยิมนาสติกมากที่สุด นอกจากนั้นยังมี Greg Louanis ซึ่งเป็นนักกีฬาคนแรกที่สามารถครองเหรียญทอง 2 เหรียญทองพร้อมกันจากการแข่งขัน Springbroad และ Platform diving
1988 โซล
หลังจากที่โซล ประเทศเกาหลีได้รับเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 10 ปี 1986 ชุน ดูวัน หมดวาระจากการเป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี โรห์ แทวู ขึ้นตำแหน่งแทน และได้รับเป็นเกียรติในประธานพิธีโอลิมปิกครั้งที่ 24 หลังจากนั้น ผจญ มูลสัน คว้าเหรียญทองแดงและได้รับชัยชนะจากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น
1992 บาร์เซโลนา
สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วไปจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้แก่ Dream Team ซึ่งในครั้งนั้น Michael Jordan, Magic Jordan, Larry Bird, Charles Barkley, Patrick Ewing, David Robinson, Karl malone และ Scottie เป็นนักบาสเกตบอลที่โดดเด่นมากในทีมสหรัฐอเมริกา ทีมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกาในปีนั้นได้เอาชนะคู่ต่อสู้จากประเทศต่าง ๆ ได้อย่างราบคาบภายใต้การนำของโค้ช Chuck Daly นักกีฬาจากประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับความชื่นชมในการแข่งขันกีฬาปีนั้นเช่น Joynor-Kersee ผู้ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันขันสัตตกรีฑา หญิงในปีนั้นนักกีฬาว่ายน้ำหญิงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สร้างความหวาดผวาให้กับนักว่ายน้ำชาติอื่น ๆ ด้วยการชนะการแข่งขันประเภทต่าง ๆ แบบทำลายสถิติ แต่ในที่สุดก็มีการพิสูจน์ได้ว่านักกีฬาหญิงผู้นั้นได้ใช้ยากระตุ้นกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นกีฬาโอลิมปิกที่ Bracelona ในปี 1992 ถูกเรียกว่าเป็น Money Game เพราะว่านักกีฬาทั้งชายและหญิงต่างทำการแข่งขันเพื่ออะไรก็ตามที่สามารถทำเงินได้ หรือแม้แต่ Jordan ได้ใช้ธงชาติสหรัฐอเมริกาคลุมป้ายผู้สนับสนุนกีฬาอย่างเป็นทางการของทีมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ใช้เป็นบริษัทผลิตรองเท้ากีฬาที่ใช้ชื่อของเขาในการขายสินค้า
1996 แอตแลนต้า
การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 26 ปี 1996 จัดการแข่งขันที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.-4 ส.ค. ซึ่งถือเป็นการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นการครบรอบ 100 ปีของการจัดโอลิมปิกเกมส์ และได้สร้างสถิติการแข่งขันมากมายไม่ว่าจะเป็นจำนวนนักกีฬา เจ้าหน้าที่รวมทั้มประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วยสำหรับนักกีฬาไทยที่ส่งไปแข่งขันเมื่อ 4 ปีที่แล้วถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จากการส่งนักกีฬาไป 9 ชนิดกีฬา ซึ่งประเทศไทยได้ฮีโร่กำปั้นคนแรกในประวัติศาสตร์ "สมรักษ์ คำสิงห์" นักชกรุ่นเฟอเธอร์เวต คว้าเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ของไทย และว่ากันว่ามีกระแสสมรักษ์ฟรีเวอร์ตามมายาวนานอีกหลายเดือนท่ามกลางความสุขที่แบ่งปันกันไปทุกหนทุกแห่งทั่วฟ้าเมืองไทย
2000 ซิดนีย์
การแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 27 ปีนี้จัดที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 15 กันยายน-1 ตุลาคม 2543 ประเทศไทยจะส่งกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 12 สมาคมกีฬา คือ กรีฑา, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, ว่ายน้ำ, แบดมินตัน, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, วอลเลย์บอล, ยิงปืน และมวยสากลสมัครเล่นจาก 12 ชนิดกีฬาที่ไทยส่งไปแข่งขันครั้งนี้ มีเพียง 2 ชนิดกีฬาที่มีโอกาสมากที่สุดในการลุ้นเหรียญทอง คือ ยิงปืน (เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ) และมวยสากลสมัครเล่นที่คนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปที่ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของเหรียญทองเมื่อ 4 ปีก่อน
2004 เอเธนส์
กีฬาโอลิมปิกกลับสู่บ้านเกิดที่กรุงเอเธนส์อีกครั้ง เจ้าภาพกรีซจัดการแข่งขังขันขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีพิธีเปิดการแข่งขันที่งดงามน่าจดจำ แต่การแข่งขันดังกล่าวเต็มไปด้วยปัญหาการก่อการร้าย เจ้าภาพใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อจัดให้กองกำลังนาโต้ดูแลความปลอดภัย ทำให้ใช้งบประมาณอย่างมหาศาล จนภายหลังกรีซประสบปัญหาสภาพเศรษกิจครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง แต่โอลิมปิกที่กรีซก็ถูกกล่าวขานถึงการจัดการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ด้วยบรรยากาศของสนามแข่งขันที่สวยงามแม้ภายหลังจะถูกทิ้งร้างจากพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
2008 ปักกิ่ง
การแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง นับเป็นการดำเนินการจัดการแข่งขันที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอลิมปก แต่ก็เต็มไปด้วยปัญหาการเมือง สิ่งแวดล้อมมากมาย แต่ด้วยเงินลงทุนมากมายมหาศาลกว่า 7 แสนล้านบาทปัญหาดังกล่าวจึงถูกสยบ มีการจัดพิธีเปิดสุดอลังการวิจิตรตะการตาเป็นที่น่าจดจำไร้ที่ติยากจะหาชาติใดมาเปรียบ โอลิมปิกครั้งนี้เป็นการประกาศศักดาของจีนในทุกด้านว่าสามารถเป็นมหาอำนาจใหม่ และจบลงด้วยชัยชนะเจ้าเหรียญทองของเจ้าภาพ
2012 ลอนดอน
ดูบทความหลักที่ โอลิมปิกฤดูร้อน 2012 โอลิมปิกปี 2012 ที่กรุงลอนดอน จัดการแข่งขันด้วยงบประมาณน้อยกว่ากรุงปักกิ่งถึงเท่าตัว แต่มีการนำแนวคิดใหม่ๆมาใช้จัดการแข่งขัน ด้วยการใช้เทคโนโลยีสุดทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และยังมีการนำสนามกีฬาชั่วคราวขนาดใหญ่มาใช้ เรียกว่าการแข่งขันครั้งนี้สามารถเป็นต้นแบบการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่คุ้มค่า ยั่งยืน เป็นตัวอย่างแก่ชาติเจ้าภาพต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม โดยงานครั้งจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ที่ทรงครองราชสมบัติครบ 60 ปีอีกด้วย
2016 ริโอ เดอ จาเนโร
รายชื่อเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน
ปี (ค.ศ.) | ครั้งที่ | เจ้าภาพ | จำนวนประเทศ | กีฬา | จำนวนนักกีฬา | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เมือง | ประเทศ | รายการ | ชนิด | ชาย | หญิง | รวม | |||
1896 | I | เอเธนส์ | กรีซ | 13 | 43 | 9 | 311 | 0 | 311 |
1900 | II | ปารีส | ฝรั่งเศส | 21 | 85 | 17 | 1,319 | 11 | 1,330 |
1904 | III | เซนต์หลุยส์ | สหรัฐอเมริกา | 13 | 96 | 14 | 681 | 6 | 687 |
1908 | IV | ลอนดอน | สหราชอาณาจักร | 22 | 110 | 21 | 1,999 | 36 | 2,035 |
1912 | V | สตอกโฮล์ม | สวีเดน | 29 | 102 | 13 | 2,490 | 57 | 2,547 |
1916 | VI ยกเลิกเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง | เบอร์ลิน | เยอรมนี | - | - | - | - | - | - |
1920 | VII | อันทเวิร์ป | เบลเยียม | 29 | 152 | 21 | 2,543 | 64 | 2,607 |
1924 | VIII | ปารีส | ฝรั่งเศส | 45 | 126 | 17 | 2,956 | 136 | 3,092 |
1928 | IX | อัมสเตอร์ดัม | เนเธอร์แลนด์ | 46 | 109 | 14 | 2,724 | 290 | 3,014 |
1932 | X | ลอสแอนเจลิส | สหรัฐอเมริกา | 37 | 117 | 14 | 1,281 | 127 | 1,408 |
1936 | XI | เบอร์ลิน | เยอรมนี | 49 | 129 | 19 | 3,738 | 328 | 4,066 |
1940 | XII ยกเลิกเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง | โตเกียว→เฮลซิงกิ | ญี่ปุ่น→ ฟินแลนด์ | - | - | - | - | - | - |
1944 | XIII ยกเลิกเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง | ลอนดอน | สหราชอาณาจักร | - | - | - | - | - | - |
1948 | XIV | ลอนดอน | สหราชอาณาจักร | 59 | 136 | 17 | 3,714 | 385 | 4,099 |
1952 | XV | เฮลซิงกิ | ฟินแลนด์ | 69 | 149 | 17 | 4,407 | 518 | 4,925 |
1956 | XVI | เมลเบิร์น | ออสเตรเลีย | 67 | 145 | 16 | 2,958 | 384 | 3,342 |
1960 | XVII | โรม | อิตาลี | 84 | 150 | 17 | 4,738 | 610 | 5,348 |
1964 | XVIII | โตเกียว | ญี่ปุ่น | 94 | 163 | 19 | 4,457 | 683 | 5,140 |
1968 | XIX | เม็กซิโกซิตี | เม็กซิโก | 113 | 172 | 18 | 4,750 | 781 | 5,531 |
1972 | XX | มิวนิก | เยอรมนีตะวันตก | 122 | 195 | 21 | 6,659 | 1,171 | 7,830 |
1976 | XXI | มอนทรีออล | แคนาดา | 93 | 198 | 21 | 4,915 | 1,274 | 6,189 |
1980 | XXII | มอสโก | สหภาพโซเวียต | 81 | 203 | 21 | 4,320 | 1,192 | 5,512 |
1984 | XXIII | ลอสแอนเจลิส | สหรัฐอเมริกา | 140 | 221 | 21 | 5,458 | 1,620 | 7,078 |
1988 | XXIV | โซล | เกาหลีใต้ | 160 | 237 | 23 | 6,983 | 2,438 | 9,421 |
1992 | XXV | บาร์เซโลนา | สเปน | 171 | 257 | 25 | 7,555 | 3,008 | 10,563 |
1996 | XXVI | แอตแลนตา | สหรัฐอเมริกา | 197 | 271 | 26 | 7,060 | 3,684 | 10,744 |
2000 | XXVII | ซิดนีย์ | ออสเตรเลีย | 199 | 300 | 28 | 6,582 | 4,069 | 10,651 |
2004 | XXVIII | เอเธนส์ | กรีซ | 201 | 301 | 28 | 6,452 | 4,412 | 10,864 |
2008 | XXIX | ปักกิ่ง | จีน | 204 | 302 | 28 | 6,305 | 4,637 | 10,942 |
2012 | XXX | ลอนดอน | สหราชอาณาจักร | 204 | 302 | 26 | 5,892 | 4,676 | 10,568 |
2016 | XXXI | ริโอ เดอ จาเนโร | บราซิล | 206 | 306 | 28 | 11,551 | ||
2020 | XXXII | โตเกียว | ญี่ปุ่น | ||||||
2024 | XXXIII | ปารีส | ฝรั่งเศส | ||||||
2028 | XXXIV | ลอสแอนเจลิส | สหรัฐอเมริกา |
สรุปเหรียญโอลิมปิกตลอดกาล
ดูเพิ่มเติมที่: สรุปเหรียญรางวัลโอลิมปิกตลอดกาล
อดีตประเทศ
# | ประเทศ | เข้าร่วม | เหรียญทอง | เหรียญเงิน | เหรียญทองแดง | รวม |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | สหรัฐ (USA) | 28 | 1022 | 794 | 704 | 2520 |
2 | สหภาพโซเวียต (URS) | 9 | 395 | 319 | 296 | 1010 |
3 | สหราชอาณาจักร (GBR) | 28 | 263 | 295 | 289 | 847 |
4 | จีน (CHN) | 10 | 227 | 164 | 152 | 543 |
5 | ฝรั่งเศส (FRA) | 28 | 212 | 241 | 260 | 713 |
6 | อิตาลี (ITA) | 27 | 206 | 175 | 191 | 572 |
7 | เยอรมนี (GER) | 16 | 191 | 192 | 232 | 615 |
8 | ฮังการี (HUN) | 26 | 175 | 147 | 169 | 491 |
9 | เยอรมนีตะวันออก (GDR) | 5 | 153 | 129 | 127 | 409 |
10 | รัสเซีย (RUS) | 6 | 149 | 136 | 161 | 446 |
11 | ออสเตรเลีย (AUS) | 26 | 147 | 163 | 187 | 497 |
12 | สวีเดน (SWE) | 27 | 145 | 170 | 179 | 494 |
No comments:
Post a Comment